ตายอย่างไม่ประมาท (ธรรมะ) โดย เรือลอยอังคาร สัตหีบ บริการลอยอังคาร โทร.033-147689 มือถือ 095-7233739

ธรรมเตือนสติสำหรับญาตมิตรสหายที่มาลอยอังคาร และบุคคลทั่วไป
(กองการฝึก กองเรือยุทธการ ลอยอังคาร โทร.033-147689 มือถือ 095-7233739 ธุการ กอง สน.กฝร.LINE ID:033147689)

7 วิธีตายอย่างสบายใจ
มรณานุสติสำหรับคนทุกวัย (ดังตฤณ)

                 ในโลกปัจจุบัน เราเสพติดวัตถุนิยม และความคิดนิยม จนมองเห็นว่าการพูดถึงความตายเป็นสิ่งอัปมงคล จนทำให้คนทั่วไปไม่พูดถึง ทั่งที่จริงๆ มันสำคัญมากในการที่ทุกคน ควรระลึกถึง มรณานุสติ คือ การระลึกถึงความตายที่ตนจะต้องประสบอยู่เนืองๆ เพื่อไม่ให้คนเราดำรงตนบนความประมาทในการดำเนินชีวิตเพราะเราทุกคนไม่รู้ว่าการนอนวันไหนจะเป็นการนอนครั้งสุดท้ายที่เราจะไม่ลืมตาขึ้นมาอีก เพราะฉนั้นเราควรทำความดีทำบุญ เพื่อความไม่ประมาทในชีวิต ผู้จัดทำเวปจึงขอนำวิธีตายอย่างสบายใจ 7 วิธี มานำเสนอ
                 โดย ๗ วิธีต่อไปนี้ ใช้ได้กับคนที่เหลือเวลาในชีวิตไม่ต่ำกว่า ๑ วันกับ ๑ คืนขึ้นไป หากเหลือเวลาน้อยกว่านั้นคงอ่านไม่ทัน หรือทําความเข้าใจไม่ถูก หรือมีแก่ใจซักซ้อมให้พร้อมไม่ได้๗ วิธีต่อไปนี้ ไม่ได้มีไว้ให้คนที่รู้ตัวว่ากําลังจะตายเท่านั้น แต่ยังเหมาะสําหรับคนที่ไม่คิดว่ากําลังจะตายเร็ว ๆนี้ด้วย ๗  วิธีต่อไปนี้เหมาะแม้สําหรับ
                 คนที่กําลังคิดจะฆ่าตัวตาย  และอยากเตรียมใจพร้อมรับความตายโดยปราศจากความกระวนกระวาย  เพราะทั้ง  ๗  วิธีไม่มีคําาขอร้องให้ใครอยู่ต่อ  มีแต่การนําเสนอข้อเท็จจริงไว้ให้สําหรับเตรียมใจก่อนตายสถานเดียว๗ วิธีต่อไปนี้ ยืนพื้นอยู่บนความสามา รถทําได้จริงไม่ว่าคุณจะเชื่อเกี่ยวกับ
ชีวิตหลังความตายอย่างไร เราจะหยุดกันแค่ที่การได้ตายอย่างสบายใจ  อันควรเป็นยอดปรารถนาสุดท้ายของชีวิต  ส่วนความจริงที่ปรากฏภายหลังความตายจะตรงหรือไม่ตรงกับความเชื่อของใคร อันนั้นก็ค่อยปล่อยให้รู้เฉพาะตน ๗ วิธีต่อไปนี้  เพียงข้อใดข้อหนึ่งที่คุณทําได้  ก็พอเชื่อว่าคุณจะสบายใจในขณะเผชิญหน้ากับความตาย   และหากทําาได้มากกว่าหนึ่งข้อ  ก็เป็นประกันได้ว่าไม่ใช่แค่สบายใจอย่างเดียว  แต่ความตายของคุณจะฝากรอยยิ้มไว้ให้โลกดูด้วยความประทับใจอีกด้วย!

                  วิธีที่ 1. เข้าใจให้ชัดว่าความสบายใจเกิดขึ้นได้อย่างไร

                 แม้มีเวลามากมายเหลือเฟือในชีวิตที่มนุษย์จะฝึกทําาความสบายใจ  ก็ยากนักที่เราจะเห็นใครเก่งพอจะบรรลุการฝึก ยากนักที่เราจะเห็นใครสามารถทําาใจให้สบายได้ตามต้องการ  ซึ่งนั่นก็หมายความว่าขณะจวนอยู่จวนไปใกล้ตายเต็มทน  เวลาเพียงน้อยนิดย่อมไม่พอสําหรับการทําใจให้สบายได้ทันการณ์เป็นแน่ความสบายใจไม่ได้เกิดจากการแกล้งทําาเนื้อทําาตัวให้สบาย ความสบายใจไม่ได้เกิดจากอําานาจสั่งการของใครแท้ที่จริงแล้ว ความสบายใจเกิดจากการไม่มีเรื่องให้ห่วง แต่ปัญหาคือชีวิตมนุษย์เต็มไปด้วยเรื่องน่าห่วง  โดยเฉพาะในยามใกล้ตาย ไหนจะญาติมิตรและสมบัติข้างหลังไหนจะหวังให้ชีวิตยืดยาวต่อไปข้างหน้าเมื่อมองออกเช่นนั้น  ก็จะเข้าใจว่าวิธีง่ายๆที่จะหายห่วงก็คือ  แยกให้ออกว่า ‘เรื่องน่าห่วง’  กับ  ‘อาการเป็นห่วง’  มิใช่สิ่งเดียวกัน  เป็นต่างหากจากกัน  แม้ยังมีเรื่องน่าห่วงก็ไม่จําาเป็นต้องไปห่วงมัน โดยเฉพาะขณะกําาลังหน้าสิ่วหน้าขวาน  ต้องการความสบายใจเป็นที่หนึ่งคุณต้องตระหนักในโทษของ‘อาการห่วง’ ให้ดีว่า มันทําาเอาเราไม่สบายใจไปเปล่าๆ  การตระหนักจะทําาให้เกิดความฉลาดเลือก  และแน่นอนว่าจิตที่ฉลาดย่อมเลือกความสบายใจมากกว่าอาการห่วงกังวล อาจฟังง่ายเหมือนเอากําาปั้นทุบดิน  แต่ก็ได้ผลจริง คือดินยุบลงไปจริงๆที่ผ่านมาจิตของคุณมัวแต่พุ่งออกไปจดจ่อกับบุคคลหรือวัตถุนอกตัวอันเป็นที่ตั้งของความกังวล  ซึ่งก็เท่ากับเลือกรักษาอาการกังวลเอาไว้  ทีนี้ถ้าหวนย้อนกลับเข้ามาข้างใน  เห็นความกังวลเป็นของแปลกปลอมที่เข้ามารบกวนความสบายใจ พอเห็นบ่อยเข้า  ใจคุณก็ถอนตัวออกมาจากอาการกังวลได้เอง เพราะไม่มีใจใครอยากยึดอยากหวงของเสียๆอยู่แล้วลองดูแล้วจะรู้ กล่าวโดยสรุปย่นย่อคือ มองให้เห็นตัวความกังวลในใจ เห็นเป็นของแปลกปลอมรบกวนจิต  เห็นโทษของมัน แล้วมันจะหายไปเอง เมื่อใดความกังวลหายไป  เมื่อนั้นความสบายใจก็ปรากฏว่ามีอยู่แล้วโดยเดิมตามธรรมชาติ



มีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลายินดีให้บริการ ดังนี้
     - โทร.033-147-689 และ มือถือ 095-7233739
     - ทาง LINE ที่ ID: 033147689
     - เฟสบุ๊ก : https://www.facebook.com/trainingfleet.sup
     - เวปไซต์ : สวัสดิการเรือลอยอังคารและเส้นทางเข้าท่าเรือ

วิธีที่ 2. ระลึกถึงความดีที่ทํามา

                  ขอบอกไว้ล่วงหน้าเลยว่าสิ่งที่คุณจะเห็นขณะที่จิตยกขึ้นสู่วิถีแห่งมรณะ  คือ นิมิตการกระทําาที่ผ่านมา อย่างใดอย่างหนึ่งหรือมากหลาย ทุกคนคงเคยมีประสบการณ์ใกล้หมดสติ  และพบว่าเรื่องราวตั้งนมนานผ่านแวบเข้ามาในหัวได้อีก ทั้งที่ปกติหลงลืมไปอย่างสนิทแล้ว แม้เหตุการณ์ช่วงเพิ่งลืมตาดูโลกไม่นานก็เอาหมด  หวนกลับมาฉายภาพซ้ําาได้หมดฉะนั้น  แทนการให้จิตซึ่งใกล้หมดสติ  เป็นผู้สุ่มเลือกการกระทําาแต่หนหลังขึ้นมาแสดง  ซึ่งอาจมีทั้งดีทั้งร้ายคละกัน  คุณก็ชิงนึกถึงแต่ตอนที่คุณยังมีสติดีๆ  มีความสามารถเลือกตัดสินใจดีๆได้ไว้ก่อน  โดยเลือกเอาเฉพาะที่คุณเคยตัดสินใจปฏิเสธเครื่องยั่วใจให้ผิดศีลผิดธรรม  ตัดสินใจอภัยแทนที่จะแก้แค้น  ตัดสินใจช่วยเหลือผู้คนแทนที่จะทอดทิ้งพวกเขาการหมั่นระลึกถึงกรรมดีในอดีต จะช่วยให้เกิดความเคยชินกับอารมณ์ดีๆ พอถึงเวลาใกล้จิตดับ อํานาจความเคยชินนั้นจะดึงเอาความทรงจําาด้านดีออกมาจากคลังกรรม ซึ่งสะสมมาทั้งชีวิตมากมาย เรียงรายเป็นคิวยาวเหยียด  ชนิดที่คุณนึกไม่ถึงทีเดียวว่าตนเคยดีมาได้ขนาดนั้นทุกคนเคยทําชั่ว เคยนึกผิดคิดพลาดแน่นอน  แต่อย่าไปเสียเวลานึกถึงมัน ถ้าอดนึกไม่ได้ก็ขอให้เป็นการสําานึกผิดครั้งสุดท้าย  แล้วหันเหไปกลบทับเสียด้วยการระลึกถึงคุณงามความดีอันเป็นคู่ตรงข้าม กับทั้งถามตัวเองอีกด้วยว่า ในความดีหนึ่งๆ ซึ่งเคยทําาไว้ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คุณจะดีกว่าที่เคยสักแค่ไหน ยิ่งจินตนาการได้ชัด ใจคุณจะยิ่งดําาดิ่งลงไปในน้ําาทิพย์แห่งความดีชนิดนั้นๆ บังเกิดความปีติปรีดาทวีขึ้นกว่าที่เคยได้หากนึกไม่ออก หรือลําาบากมากนักก็อาจใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในปัจจุบันนั้นเอง พูดให้ใครก็ได้รู้สึกดี หรือทําาอะไรก็ได้ให้ใครสักคนรับประโยชน์จากชีวิตอันเหลือน้อยของคุณ คราวนี้คุณจะได้ไม่ต้องเค้นระลึกถึงอดีตฝังลืมต่างๆอีกต่อไป  เอากรรมดีที่เกิดขึ้นสดๆ นั่นแหละเป็นใบเบิกทางสู่ธงชัยแห่ง
ความสว่างด้วยข้อวิธีนี้ คุณจะพบกับความจริงด้วยความเต็มตื้นว่า  เพียงด้วยการระลึกถึงความดีให้ออก ยิ่งบ่อยเท่าไร ความสบายใจก็จะยิ่งทวีขึ้นเท่านั้น และนั่นก็เพราะ ค่าของคนอยู่ที่ผลของการทําดีไว้กับโลกนั่นเอง


สวัสดิการลอยอังคาร กองการฝึก กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ
     - โทร.033-147-689 และ มือถือ 095-7233739
     - ทาง LINE ที่ ID: 033147689
     - เฟสบุ๊ก : https://www.facebook.com/trainingfleet.sup

วิธีที่ 3 ยอมรับความจริง

                ความจริงเป็นสิ่งที่น่ายอมรับที่สุดเพราะอย่างไรมันก็ต้องเป็นของมันอยู่อย่างนั้น แต่สิ่งที่น่ายอมรับที่สุดนั่นแหละ ที่มนุษย์มักปฏิเสธยิ่งกว่าอะไรอื่น ราวกับจิตใจห่อหุ้มไปด้วยเมฆหมอกแห่งการหลอกตัวเองหนาทึบ ยากจะปัดเป่าให้เบาบางลงเมื่อไม่มีอาการแข็งขืน เมื่อไม่มีความอยากให้เป็นอื่น การยอมรับตามจริงจะเกิดขึ้น และนั่นเองคือที่มาของสติที่บริสุทธิ์ สามารถรับรู้ทุกสิ่งได้ตรงกับที่มันเป็น
เคยได้ยินไหมว่าคนใกล้ตายไม่โกหก? รู้ไหมเพราะอะไร? เพราะจิตของคนใกล้ตายต้องการสติสัมปชัญญะเหนือสิ่งอื่นใด การคิดปั้นน้ำ เป็นตัวให้จิตเพี้ยนในขณะใกล้ตายจึงไม่ใช่วิสัยปกติคนใกล้ตายเห็นสัจธรรมบางอย่างนั่นคือ ชีวิตทั้งหมดเป็นเรื่องโกหกอยู่แล้ว พวกเราถูกหลอกว่ามี พวกเราถูกหลอก ว่าเป็น ทั้งที่ไม่เคยมีและไม่เคยเป็นอะไรจริงๆสักอย่าง ทุกอย่างผ่านมาให้ดู เพื่อผ่านไปให้เสียดาย หรือไม่ก็ผ่านไปให้โล่งใจเล่นแป๊บๆเท่านั้นวันแห่งความตายคือวันแห่งการเปิดเผยความจริง ทุกสิ่งจะหลุดจากกำ มือของเราไป ประโยชน์อะไรกับการพยายามพูดโกหก ปั้นเรื่องเท็จซ้อนเข้าไปในเรื่องเท็จกันอีกการฝึกยอมรับความจริงที่ดีที่สุด ได้ผลแรงทันใจ ควรเริ่มกันที่ ‘การบอกความจริง’ ในทางที่ดี ที่เป็นประโยชน์ โดยเฉพาะกับคนข้างหลังลองตั้งต้นจากคนที่เข้ามาหาคุณในช่วงท้ายๆ เริ่มคิดถึงสิ่งที่คุณหลอกเขาไว้หรือสิ่งที่คุณยังกำ เป็นความลับที่ทำ ให้เขาเสียประโยชน์ แล้วพูดความจริงให้เขาฟัง จะ
พบว่าคำ จริงที่หลุดจากปากคุณแต่ละครั้ง คือการสลายม่านหมอกแห่งความลวงออกทีละน้อยจากใจคุณเองยิ่งยอมรับผิดมากขึ้นเท่าไร ใจคุณจะยิ่งเห็นความจริงที่ถูกต้องปรากฏชัดขึ้นเท่านั้นคุณจะพบว่าความจริงสำคัญสูงสุดที่ควรรู้ ควรตระหนัก ไม่มีอะไรยิ่งไปกว่าความจริงที่คุณต้องทิ้งทุกสิ่งไว้ในโลก และมนุษย์ทุกคนต้องตายคุณจะเห็นข้าวของรอบตัวถนัดชัด ตาขึ้น ทุกสิ่งเก่าลง แล้วจะต้องปรวนแปรไป
กว่านั้นอีก หากคุณไม่เคยยอมรับความจริงเหล่านั้นได้ ก็จะพบว่าง่ายขึ้นหลังจากทยอย‘พูดความจริงดีๆ’ ออกไปเรื่อยๆกระทั่งเกิดพลังสัจจะ ย้อนกลับมาช่วยเป็นแสงสว่างให้คุณเห็นอะไรๆกระจ่างขึ้นการยอมรับความจริงย่อมทำ ให้ใจคุณสบายกว่าตอนไม่ยอมรับ ความจริงไม่เคยน่าหวาดกลัวสำ หรับนักยอมรับ ความจริงเป็นแค่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นธรรมดาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ว่าก่อนคุณเกิดหรือหลังคุณตายระหว่างมีชีวิต ไม่ว่าคุณจะเคยทำความจริงให้บิดเบี้ยวไปเพียงใดก็ช่าง ขอเพียงใช้เวลาช่วงสุดท้ายดัดมันให้กลับตรงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เถิด ผลจะเกิดเป็นจิตที่สบายของคุณเองอย่างไม่ต้องสงสัย


4.เผื่อใจให้กับการมีอยู่ของปรโลก

การอยู่กับฉากต้นๆและฉากกลางๆของละครชีวิตจะไม่ช่วยให้คุณนึกถึงละครเรื่องใหม่ ต่อเมื่อคุณอยู่กับฉากท้ายๆใกล้จบนั่นแหละความรู้สึกเกี่ยวกับการเล่นและการชมละครเรื่องใหม่ จึงค่อยๆผุดชัดในใจ แม้ยังไม่อาจคาดเดาว่าเรื่องใหม่จะเป็นอย่างไรแต่อย่างน้อยคุณก็เลิกสําาคัญเสียทีว่าโรงละครโรงใหญ่แห่งนี้มีแต่เรื่องเดิมได้แค่เรื่องเดียวขณะใกล้ตายเป็นช่วงแห่งสังหรณ์ โดยเฉพาะสังหรณ์เกี่ยวกับภพข้างหน้าคุณจะเห็นว่าความรู้สึกที่เกิดเป็นปกติอยู่ในปัจจุบันนี่เอง คือลางบอกเหตุชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนี้เองคือรากของอนาคตอันจะมีขึ้นอีกมาก ยกตัวอย่างเช่น ใจที่สงบจะชวนให้คุณนึกถึงแสงสว่างและสภาพแวดล้อมน่ารื่นรมย์ใจที่กระสับกระส่ายจะชวนให้คุณนึกถึงม่านมืดตลอดจนสภาพแวดล้อมชวนขนหัวลุก ส่วนใจที่ครึ่งๆ กลางๆ เดี๋ยวสงบเดี๋ยวกระสับกระส่ายจะไม่ชวนให้คุณมั่นใจนักว่ากําาลังจะต้องเผชิญกับอะไรกันแน่ขณะยังมีชีวิตช่วงต้นและช่วงกลางถ้าไม่รู้ก็ถือว่าไม่ผิด ถ้าไม่คิดถึงโลกหน้าก็อ้างได้ว่าต้องเอาเวลาไปทําาประโยชน์อย่างอื่น แต่สําาหรับช่วงท้ายๆ การไม่คิดถือว่าประมาทเวลาที่เหลือของคนใกล้ตายจะเป็นประโยชน์อะไรได้มากไปกว่าเตรียมตัวพบกับอนาคตเล่า?ขอให้คิดถึงการเดินทางไกลหากไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหนทางข้างหน้าเสียเลยก็อาจถือได้ว่าเป็นความผิดใหญ่หลวงยามใกล้ตายคนทั่วไปไม่มีใครกล้าอวดดื้อถือดีสั่งให้ตนเองเชื่อว่าตายแล้วตายเลย ทุกคนจะหมดความทะนงหลงมั่นใจในความเชื่อของตัวเองไปพร้อมกับเรี่ยวแรงที่ถดถอย ในเมื่อร่างกายที่เคยบัญชาให้เคลื่อนไหวตามใจนึกได้ก็กลายเป็นบัญชาไม่ได้อีกต่อไป นับประสาอะไรกับดวงจิตที่ปรวนแปรไปมาควบคุมไม่ได้อยู่แล้วขณะมีชีวิตเป็นปกติ พอใกล้ตายที่ภาวะต่างๆ ผิดปกติใครเล่าจะควบคุมให้จิตใจหยุดเดินทางไปตามแรงขับเคลื่อนของกรรมได้? ความเชื่อเรื่องตายแล้วสูญนับเป็นศรัทธามืดอันเกิดจากความไม่รู้จริงไม่เคยตายจริง ผู้มีศรัทธามืดได้ชื่อว่าเป็นผู้ปิดใจ การปิดใจจะทําาให้รู้สึกคับแคบ ไม่อาจสบาย และไม่อาจหายสงสัยว่าเรื่องจริงหลังความตายคือการยุติหรือว่าคือการเริ่มละครเรื่องใหม่กันแน่ ต่อให้เป็นพวกมิจฉาทิฏฐิที่เคยตะล่อมหลอกเที่ยวบอกให้ใครต่อใครเชื่อว่าเกิดหนเดียวตายหนเดียวก็จะเกิดความไม่สบายใจกระวนกระวายเป็นอันมาก เมื่อถึงเวลาได้พิสูจน์ความจริงกับตนเองนั่นเพราะความจริงหลังตายไม่สนใจวาทะใครมีอะไรต้องแสดงก็แสดงออกมาหมดตามที่ควรมีควรเป็นอย่างน้อยการเผื่อใจเชื่อเรื่องหลังความตายจะลดแรงต้านลงได้มากการลดแรงต้านลงก็คือการไม่ต้องออกกําาลังต่อสู้กับความไม่รู้มันช่วยผ่อนคลายจิตใจให้สบายขึ้นได้จริงเลิกเถียงกับตัวเองเกี่ยวกับการมีหรือไม่มีชีวิตหลังความตาย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดให้เห็นในไม่ช้าอยู่แล้วความเชื่อที่ขัดกับความจริงจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง โดยไม่มีใครนําไปใช้ต่อสู้กับสัจธรรมได้เลยอีกทางหนึ่ง เมื่อเผื่อใจให้กับการมีอยู่ของชีวิตหลังความตาย คุณอาจฟุ้งซ่านต่อเช่น ชีวิตหลังความตายจะมีอะไรเป็นตัวกําหนดมีอําานาจชนิดใดมาบงการหรือวางแผนให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้แน่นอนว่าความฟุ้งซ่านดังกล่าวอาจทําให้กระสับกระส่ายไม่เป็นสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสํารวจเข้าไปไม่เห็นความปักใจเชื่อเป็นเด็ดเป็นขาดเลยสักอย่างกรรมก็ไม่รู้จะเชื่ออย่างไรพระเจ้าก็ไม่รู้จะเชื่อแบบไหนอันนี้ก็ขอให้เลิกคิดแล้วทําอะไรสักอย่าง ถ้าสมัครใจเชื่อพระเจ้าก็สวดวิงวอนให้รู้สึกอุ่นใจเลย แต่ถ้าสมัครใจเชื่อกรรมก็อาจสวดมนต์เพื่อให้เกิดความสุขทางใจ หรือเพื่อให้เห็นว่าคุณมี  ‘มโนกรรม’  ในช่วงท้ายๆ เป็นการผูกใจไว้กับการสรรเสริญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถ้าไม่เคยทราบก็ขอให้ทราบว่าบทสวดเช่น ‘อิติปิโส’ คือการพรรณนาคุณงามความดีของ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ผู้สรรเสริญสิ่งที่สว่างอยู่ด้วยปากกับใจปากกับใจย่อมสว่างตามความสว่างนั้นเองจะเป็นที่มาของความสบายใจหายฟุ้งซ่านเสียได้


 5 อภัยโลก

  • โลกนี้โกลาหลวุ่นวายอยู่เป็นนิตย์ก็ด้วยความกระทบกระทั่งนานา และในเมื่อทุกคนอาศัยอยู่ในโลกก็ย่อมต้องถูกโลกกระทบกระทั่งเป็นธรรมดาหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วโลกก็เต็มไปด้วยไอร้อนของควันไฟอันเกิดจากใจแค้นเคืองไม่ค่อยมีที่ไหนฉ่ําาเย็นด้วยกระแสน้ําาแห่งการให้อภัยเท่าใดนักปกติคนใกล้ตายจะไม่นึกอยากเอาเรื่องเอาราวกับใครอีกเพราะในไม่ช้าก็จะต้องอยู่คนละโลกกันแล้วเอื้อมมาแตะต้องกันไม่ได้อีกแล้วการตายของคนคนหนึ่งคือการปิดเกมแห่งการเบียดเบียนเปรียบเหมือนนักมวยที่แขวนนวมเลิกใช้ชื่อเดิมขึ้นเวทีอย่างเด็ดขาดแล้วอย่างไรก็ตามความพยาบาทอาฆาตอาจทําาให้  ‘เรื่องปกติ’ กลายเป็นสิ่งผิดปกติไป หลายคนยังผูกใจเจ็บยังนึกไปในทางเคียดแค้นอยากเอาคืน เสียดายไม่อยากตายตอนนี้ เพราะยังไม่ทันได้เอาคืนให้หนําใจ หรือกระทั่งคิดเลยเถิดถึงขั้นประกาศศักดาชัด ว่าคอยดู เดี๋ยวกูเป็นผีก็จะมาเอามึงคืนแน่นอน! เรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ แถมไม่ใช่ของหายากเสียด้วย เพราะคนจํานวนมากปล่อยให้ความแค้นเป็นใหญ่ครอบงําจิตใจตัวเองไม่ให้ความสําคัญกับความสุขความสบายใจมากเท่าการได้ชําระแค้นกันก่อนกายนี้สิ้นลมเรารู้ว่า ‘วิญญาณอาฆาต’ มีจริงด้วยความคิดฝังใจไม่อภัยศัตรูสิ่งที่ไม่รู้ก็คือ หลังกายนี้สิ้นลม ‘วิญญาณอาฆาต’ นั้นยังมีจริงต่อไปไหมนี่แหละ! คนเราทนทุกข์ทนร้อนด้วยไฟโกรธขณะมีชีวิตไม่พอ แม้ธรรมชาติให้โอกาสจบทุกข์จบร้อนด้วยความตาย ก็ยังอุตส่าห์อยากเติมเชื้อไฟต่ออายุให้มันเข้าไปอีกสิ่งเดียวที่ประกันความรู้ได้แน่นอนก็คือ ระหว่างยังไม่ตายนี้คุณสามารถดับวิญญาณอาฆาตลงได้ด้วยความคิดให้อภัยและเมื่อเชื้อแห่งทุกข์ร้อนดับลงแล้วหลังตายก็ไม่น่าหลงเหลือวิญญาณอาฆาตอยู่ ณ ที่ใดอีกค่อยๆ นึกถึงใครก็ได้ที่คุณผูกใจเจ็บอยู่ และที่ผ่านมาไม่เคยนึกอยากให้อภัยแม้ว่าเขาหรือเธอจะเป็นอดีตที่ฝังลืมไปแล้วปัจจุบันคุณไม่นึกถึงอีกแล้วก็ขอให้ขุดเขาและเธอขึ้นมาระลึกถึงนึกให้ออกทีละคนหากโทร.ได้ทันก็โทร.ไปขออภัยขออโหสิต่อกันยิ่งดีคุณจะพบว่าใครต่อใครในชีวิตที่ผ่านมา รวมตัวกันประกอบขึ้นเป็นโลกในใจคุณ  ยิ่งคิดอโหสิได้มากคนขึ้นเท่าไรโลกในใจของคุณจะยิ่งปลอดโปร่งโล่งเบาขึ้นเท่านั้นและนั่นย่อมจะยิ่งทําาให้ทิ้งร่างนี้ไปด้วยใจอภัยโลกเต็มดวงขึ้นด้วยสิ่งที่คุณจะรับรู้ก่อนตายหลังอภัยโลกได้ก็คือใจที่สบายหายห่วง แต่ละครั้งที่คุณพูดกับปาก หรือเพียงนึกด้วยใจบริสุทธิ์แท้ว่า เลิกแล้วต่อกันนะไม่มีภัยเวรไม่มีเส้นสายมืดดําโยงใยระหว่างใจกันอีกแล้วนะคุณจะชื่นมื่นเห็นความเป็นโมฆะแห่งภัยเวรมากขึ้นเรื่อยๆ จนสว่างจ้าออกมาจากกลางใจชัดเจนทีเดียว
 
สวัสดิการลอยอังคาร กองการฝึก กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ
     - โทร.033-147-689 และ มือถือ 095-7233739
     - ทาง LINE ที่ ID: 033147689
     - เฟสบุ๊ก : https://www.facebook.com/trainingfleet.sup

ปัจจุบันกองการฝึก กองเรือยุทธการ ได้จัดเรือ กร.709 ไว้ให้บริการประชาชนและกำลังกองทัพเรือในการประกอบพิธีลอยอังคารและทัศนศึกษา โดยได้จัดเจ้าหน้าที่ทหารเรือไว้บริการในพื้นที่สัตหีบ จังหวัดชลบุรี บริเวณท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ ในราคาสวัสดิการ  2,500 บาท  โดยทางผู้ขอรับบริการเตรียมแค่อัฐิหรืออังคาร พร้อมรูป ของท่านผู้วายชนมาเท่านั้น ที่เหลือทางเจ้าหน้าที่ทหารเรือจะเตรียมไว้ให้ทั้งหมดในราคานี้  โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม


มีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลายินดีให้บริการ ดังนี้

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความประทับใจของผู้มาใช้บริการ เรือลอยอังคาร

พิธีทำบุญ เรือลอยอังคาร

ผ้ามหาบังสกุล เรือลอยอังคาร กองเรือ โทร.033-147689 มือถือ 095-7233739