เรือลอยอังคาร โทร.033-147689 มือถือ 095-7233739 (ใต้ร่มประดู่)

 ใต้ร่มประดู่

  • ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ ณ ป่าไม้ประดู่ใกล้เมืองโกสัมพีทรงหยิบใบประดู่ขึ้นมากำมือหนึ่ง แล้วตรัสกับภิกษุทั้งหลายที่ตามเสด็จ
  • “ใบประดู่ที่อยู่ในกำมือของเรานี้ มีจำนวนน้อยกว่าใบที่อยู่บนต้นคำสอนของเราก็เช่นเดียวกัน ฝ่ายที่เรารู้แล้วบอกแก่เธอทั้งหลายมีน้อยกว่าที่ยังมิได้บอก เพราะเลือกบอกแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ เป็นข้อปฏิบัติขั้นพื้นฐาน เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์เท่านั้น ส่วนที่ไม่ได้บอก คือสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่ข้อปฏิบัติขั้นพื้นฐาน จะไม่เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์”
  • “สิ่งที่บอกแล้วคือ ทุกข์ เหตุเกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และข้อปฏิบัติสำหรับดับทุกข์ ซึ่งเรียกว่าอริยสัจ 4 ประการ เหล่านี้แหละเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ เป็นข้อปฏิบัติขั้นพื้นฐาน และเป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ดังนั้น เธอทั้งหลายพึงพยายามให้รู้ตามจริงในเรื่องทุกข์ เหตุเกิดทุกข์ความดับทุกข์ และข้อปฏิบัติสำหรับดับทุกข์เถิด” 


    จาก สีสปาสูตร สีสปาปัณณวรรค สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค

 พิธีทำบุญทั่วไป

พิธีทำบุญในศาสนาพุทธ มี ๒ พิธี คือ

1. พิธีทำบุญงานมงคล เพื่อความเป็นสิริมงคล ความสุข ความเจริญ เช่นทำบุญขึ้นบ้านใหม่ งานวันเกิด งานแต่งงาน เป็นต้น
2. พิธีทำบุญงานอวมงคล เพื่อบำบัดความทุกข์โศก ปัดเป่าความชั่วร้ายให้หมดไป เช่น ทำบุญงานศพ แร้งจับที่บ้าน รุ้งกินน้ำในบ้าน อาเพศภัยพิบัติต่าง ๆเป็นต้น

พิธีทำบุญทั้ง 2 พิธีดังกล่าว มีขั้นตอนการปฏิบัติทั้งขั้นเตรียมการและขั้นปฏิบัติการส่วนใหญ่เหมือนกัน แต่จะมีความแตกต่างกันบ้าง โดยบางพิธีตัดบางอย่างออกไป บางพิธีเพิ่มบางอย่างเข้ามา ดังนี้

ขั้นเตรียมการ

โต๊ะหมู่บูชา ตั้งด้านขวาอาสน์สงฆ์ หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทิศเหนือหรือทิศใต้ ไม่นิยมทิศตะวันตก (เว้นความจำเป็น) เช่น โต๊ะหมู่บูชาชุดหมู่ ๗ ประกอบด้วย

- พระพุทธรูป 1 องค์
- แจกันดอกไม้ 5 แจกัน หรือ พานดอกไม้ 5 พาน
- กระถางธูป 1 ชุด พร้อมธูป 3 ดอก
- เชิงเทียน 1 คู่ พร้อมเทียน 2 เล่ม
- เชิงเทียนชนวน 1 อัน พร้อมเทียน 1 เล่ม

อาสน์สงฆ์ (ที่ยกพื้นสำหรับพระสงฆ์นั่ง) หรืออาสนะ (ที่นั่ง เครื่องปูรองนั่ง) ตั้งด้านซ้ายโต๊ะหมู่บูชา (หากจำเป็นตั้งด้านขวาก็ได้) แยกต่างหากจากที่นั่งฆราวาส ประกอบด้วย โต๊ะ หรือตั่ง เสื่อ หรือพรม (ใหญ่-เล็ก) หมอนอิง



เครื่องรับรอง

ประกอบด้วย ภาชนะน้ำร้อน ภาชนะน้ำเย็น กระโถนตั้งไว้ด้านขวามือพระสงฆ์ โดยตั้งกระโถนไว้ด้านในสุด ถัดออกมาเป็นภาชนะน้ำเย็น ส่วนภาชนะน้ำร้อนจัดถวายเมื่อพระสงฆ์เข้านั่งแล้ว

ที่นั่งเจ้าภาพและผู้ร่วมงาน
- จัดไว้ด้านหน้าอาสน์สงฆ์ แยกต่างหากจากอาสน์สงฆ์

- ถ้าที่นั่งเนื่องเป็นอันเดียวกับอาสนะ ให้ปูเสื่อ หรือพรมทับผืนที่เป็นที่นั่งฆราวาส

ภาชนะน้ำมนต์/เทียนน้ำมนต์/หญ้าคา
 - จัดในงานมงคลทุกชนิด ตั้งไว้ข้างโต๊ะหมู่บูชาด้านขวามือของประธานสงฆ์
 - งานอวมงคล เช่น ทำบุญหน้าศพ 7 วัน 50 วัน 100 วัน วันคล้ายวันตายเป็นต้น ไม่ต้องจัดภาชนะน้ำมนต์
- งานอวมงคลเพื่อปัดเป่าความชั่วร้าย เช่น แร้งจับที่บ้าน รุ้งกินน้ำในบ้านอาเพศภัยพิบัติต่าง ๆ เป็นต้น ต้องจัดภาชนะน้ำมนต์
- เทียนน้ำมนต์ ใช้เทียนขี้ผึ้งแท้ น้ำหนัก 1 บาทขึ้นไป
- หญ้าคา ใช้สำหรับประพรมน้ำพระพุทธมนต์ หากไม่มีจะใช้ใบมะยมแทนก็ได้

ด้ายสายสิญจน์ 

- งานมงคล ใช้วงรอบบ้านเรือนในพิธีทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญบ้านประจำปี ทำบุญปัดเป่าความเสนียดจัญไร (อวมงคล) เป็นต้น
- งานอวมงคลเกี่ยวกับศพ ไม่ใช้ด้ายสายสิญจน์วงรอบบ้านเรือน ใช้โยงจากศพมาเพื่อให้พระสงฆ์บังสุกุล
 

วิธีวงด้ายสายสิญจน์
- งานมงคล เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ฯลฯ เริ่มต้นที่พระพุทธรูป ที่โต๊ะหมู่บูชาหรือหิ้งพระในบ้าน หรือในที่ประกอบพิธีสงฆ์ วงเวียนขวารอบอาคารบ้านเรือน หรือรอบบริเวณงานแล้วนำมาวงเวียนขวารอบฐานพระพุทธรูป ๑ หรือ ๓ รอบ วางกลุ่มด้ายสายสิญจน์ใส่พานไว้ด้านซ้ายโต๊ะหมู่บูชา
- งานมงคลอื่น ๆ ให้วงรอบที่ฐานพระพุทธรูป แล้วโยงมาวงรอบภาชนะน้ำมนต์เลย

วิธีใช้ด้ายสายสิญจน์บังสุกุล
- งานมงคล หากเชิญโกศอัฐิบรรพบุรุษมาร่วมบำเพ็ญกุศลด้วย จะใช้ด้ายสายสิญจน์อีกกลุ่มหนึ่ง หรือกลุ่มเดียวกันนั้น เด็ดให้ขาดจากพระพุทธรูปแล้วเชื่อมโยงโกศอัฐิให้พระสงฆ์บังสุกุล
- งานอวมงคล โยงจากศพ จากโกศอัฐิ จากรูปผู้ตาย หรือจากรายนามผู้ตายมาให้พระสงฆ์บังสุกุล

เทียนชนวน อุปกรณ์ประกอบด้วย
- เชิงเทียนทองเหลืองขนาดกลาง 1 อัน
- เทียนขี้ผึ้ง/เทียนไขไส้ใหญ่ ๆ 1 เล่ม
- น้ำมันชนวน (เทียนขี้ผึ้ง /เทียนไข ผสมน้ำมันเบนซิน)

ภาชนะกรวดน้ำ ให้ใส่น้ำสะอาดเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนถึงเวลาใช้

การนิมนต์พระสงฆ์


งานมงคล 
- พิธีหลวง นิมนต์ 10 รูป ส่วนพิธีทางราชการ นิยมนิมนต์ 10 รูป ตามพิธีหลวง
- พิธีราษฎร์ทุกประเภท รวมทั้งงานมงคลสมรส นิมนต์ 9 รูป

งานอวมงคลเกี่ยวกับพิธีศพทั้งพิธีหลวงและพิธีราษฎร์ นิมนต์พระสงฆ์เหมือนกัน คือ
- สวดพระอภิธรรม 4 รูป
- สวดหน้าไฟ 4 รูป
- สวดพระพุทธมนต์ 5  7  9  10  รูป ตามศรัทธา (พิธีหลวง นิมนต์ 10 รูป)
- สวดแจง 20  25  50 100  500 รูป หรือทั้งวัด
- สวดมาติกาบังสุกุล นิยมนิมนต์เท่าอายุผู้ตาย หรือตามศรัทธา

ขั้นปฏิบัติการ
การใช้เทียนชนวน
- การถือเทียนชนวน พิธีกรถือด้วยมือขวา โดยหงายฝ่ามือ ใช้นิ้วมือสี่นิ้ว(เว้นนิ้วหัวแม่มือ) รองรับฐานเชิงเทียน แล้วใช้หัวแม่มือกดฐานเชิงเทียนเข้าไว้ไม่นิยมจับกึ่งกลางเชิงเทียน เพราะจะทำให้ประธานในพิธีรับไม่สะดวก
- การส่งเทียนชนวน พิธีกรจุดเทียนชนวนถือด้วยมือขวาเดินเข้าไปหาประธานในพิธี ยืนตรงโค้งคำนับ เดินตามประธานในพิธีไปยังที่บูชา โดยเดินเยื้องทางด้านขวามือประธานในพิธี ถ้าประธานในพิธีหยุดยืนหน้าที่บูชา พิธีกรน้อมตัวลงเล็กน้อยส่งเทียนชนวน ถ้าประธานในพิธีนั่งคุกเข่า พิธีกรก็นั่งคุกเข่าตามแล้วส่งเทียนชนวนด้วยมือขวา มือซ้ายห้อยอยู่ข้างตัว
- การรับเทียนชนวน เมื่อประธานในพิธีจุดธูปเทียนเสร็จแล้ว พิธีกรรับเทียนชนวน โดยยื่นมือขวาแบมือเข้าไปรองรับ ถอยหลังห่างออกไปเล็กน้อยโค้งคำนับแล้วกลับหลังหันเดินออกมา

การปฏิบัติของประธานในพิธีที่โต๊ะหมู่บูชา  เมื่อเริ่มพิธีการ
- พร้อมที่หน้าโต๊ะหมู่บูชา รับเทียนชนวนจากพิธีกรด้วยมือขวา
- จุดเทียนเล่มซ้ายมือของประธานในพิธีก่อน แล้วจุดเทียนเล่มขวามือ
- จุดธูปดอกซ้ายมือของประธานในพิธีก่อน แล้วจุดธูปดอกที่ ๒ และ

ตามลำดับ
- ส่งเทียนชนวนคืนให้พิธีกร
- กราบบนที่กราบพระ 3 ครั้ง ลำดับการปฏิบัติ คือ

คุกเข่า
- ตั้งลำตัวตรง (1. ประนมมือ 2. น้อมศีรษะลง 3. แนบฝ่ามือทั้งสองบนที่กราบ 4. จรดหน้าผากลงระหว่างมือ (ให้หน้าผากสัมผัสที่กราบ)  5.ยกศีรษะขึ้นพร้อมยกมือประนมขึ้นตาม 6. ตั้งลำตัวตรง  รวม 6 จังหวะ นับเป็น 1 ครั้ง

หมายเหตุ การก้มศีรษะลง แล้วแบะฝ่ามือใส่ที่กราบ 3 ครั้ง ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง ไม่พึงปฏิบัติเช่นนั้น

พิธีกรอาราธนาศีล/พระปริตร

- เมื่อประธานในพิธี หรือเจ้าภาพจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยเสร็จแล้วกลับนั่งที่เดิม พิธีกรเริ่มกล่าวคำอาราธนาต่อไป
- ถ้าอาสนะอยู่ระดับพื้น ผู้ร่วมพิธีทั้งหมดนั่งกับพื้น พิธีกรพึงนั่งคุกเข่าประนมมือกราบ ๓ ครั้ง แล้วจึงกล่าวคำอาราธนา ถ้าอาสน์สงฆ์ยกขึ้นสูงจากพื้นแต่ผู้ร่วมพิธีทั้งหมดนั่งอยู่กับพื้นพิธีกรก็นั่งคุกเข่าอาราธนาเช่นกัน
- ถ้าอาสน์สงฆ์ยกสูง ผู้ร่วมพิธีทั้งหมดนั่งเก้าอี้ พิธีกรพึงยืนทางท้ายอาสน์สงฆ์ ข้างหน้าพระสงฆ์รูปที่ ๑ หรือที่ ๒ จากท้ายแถว หรือที่อันเหมาะสมทำความเคารพประธานในพิธี แล้วหันหน้าไปทางประธานสงฆ์ประนมมือ

กล่าวคำอาราธนาศีล โดยหยุดทอดเสียงเป็นจังหวะ ๆ ดังนี้
คำอาราธนาศีล
มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ/ ติสะระเณนะ สะหะ/ ปัญจะ สีลานิยาจามะ/ทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ/ ติสะระเณนะ สะหะ/ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ/ตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะณัตถายะ/ ติสะระเณนะ สะหะ/ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ/

- เมื่อรับศีลเสร็จแล้วพึงอาราธนาพระปริตรต่อไป จบแล้ว ถ้านั่งคุกเข่าก็กราบ ๓ ครั้ง ถ้ายืนก็ยกมือไหว้ เสร็จแล้วทำความเคารพประธานในพิธีอีกครั้งหนึ่ง

คำอาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ/ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา/ สัพพะทุกขะวินาสายะ/ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง/วิปัตติปะฏิพาหายะ/ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา/ สัพพะภะยะวินาสายะ/ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง/วิปัตติปะฏิพาหายะ/ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา/ สัพพะโรคะวินาสายะ/ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง/

การจุดเทียนน้ำมนต์
- ประธานในพิธี หรือเจ้าภาพต้องรอคอยจุดเทียนน้ำมนต์อีกครั้งหนึ่ง
- เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ถึงบท นโมการอัฏฐกะ คือ นะโม 8 บท ประมาณบทที่ 5 (เริ่ม นะโม โอมะกาตี ตัสสะ ฯลฯ) พิธีกรจุดเทียนชนวนเข้าไปเชิญประธานในพิธี หรือเจ้าภาพไปจุดเทียนน้ำมนต์แล้วยกภาชนะน้ำมนต์ประเคนประธานสงฆ์ ยกมือไหว้แล้วกลับไปนั่งที่เดิม

- การบูชาข้าวพระพุทธ/ถวายภัตตาหารพระสงฆ์เมื่อเจ้าหน้าที่เตรียมสำรับอาหารเพื่อบูชาพระพุทธและภัตตาหารถวายพระสงฆ์เรียบร้อยแล้ว

ประธานในพิธี
- พร้อมที่โต๊ะวางสำรับอาหาร (ไม่ต้องจุดธูป เพราะถือเป็นพิธีต่อเนื่องจากการจุดธูปเทียนตอนเริ่มพิธีการ)
- นั่งคุกเข่า ประนมมือกล่าวคำบูชาข้าวพระพุทธโดยว่า “นะโม ตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ” ( ๓ จบ ) แล้วกล่าวคำบูชาข้าวพระพุทธดังนี้ “อิมัง/ สูปะพะยัญชะนะ/ สัมปันนัง/ สาลีนัง/ โอทะนัง/ อุทะกัง วะรัง/พุทธัสสะ/ ปูเชมิ” (เพียง ๑ จบ)
- กราบ ๓ ครั้ง หรือยกมือไหว้ ๑ ครั้ง ตามความเหมาะสมของสถานที่

การลาข้าวพระพุทธ  เมื่อพระสงฆ์ฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว เจ้าภาพหรือพิธีกรเข้าไปนั่งคุกเข่าประนมมือกล่าวคำลาข้าวพระพุทธ แล้วยกอาหารไปได้

หมายเหตุ การลาข้าวพระพุทธเป็นภาระของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีคำลาข้าวพระพุทธดังนี้

“เสสัง มังคะลัง ยาจามิ” (ข้าพเจ้าขอส่วนที่เหลืออันเป็นมงคลนี้)
 

กล่าวคำถวายสังฆทาน
- การถวายภัตตาหาร (อาหารสด) งานทำบุญพิธีหลวง ไม่มีการกล่าวคำถวายสังฆทาน (พิธีทางราชการ นิยมปฏิบัติตามพิธีหลวง)
- การถวายภัตตาหาร (อาหารสด) งานทำบุญพิธีราษฎร์ มีทั้งกล่าว และไม่กล่าว (ตามความประสงค์เจ้าภาพ)
- การถวายอาหารแห้ง ทั้งพิธีหลวง และพิธีราษฎร์ นิยมกล่าวคำถวายสังฆทาน


คำถวายสังฆทาน 

แบบมีภัตตาหารเป็นหลัก (ถวายก่อนเที่ยง)
นะโม ตัสสะ/ ภะคะวะโต/ อะระหะโต/ สัมมาสัมพุทธธัสสะ (ว่า ๓ จบ) อิมานิ มะยัง ภันเต/ ภัตตานิ/ สะปะริวารานิ/ ภิกขุสังฆัสสะ/ โอโณชะยามะ/สาธุ โน ภันเต/ ภิกขุสังโฆ/ อิมานิ/ ภัตตานิ/ สะปะริวารานิ/ ปะฏิคคัณหาตุ/อัมหากัง/ ทีฆะรัตตัง/ หิตายะ/ สุขายะ ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ/ ข้าพเจ้าทั้งหลาย/ ขอน้อมถวาย/ ซึ่งภัตตาหาร/พร้อมทั้งของบริวารเหล่านี้/ แด่พระภิกษุสงฆ์/ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ/ซึ่งภัตตาหาร/ พร้อมทั้งของบริวารเหล่านี้/ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย/ เพื่อประโยชน์/เพื่อความสุข/ แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย/ ตลอดกาลนาน เทอญ 

คำถวายสังฆทานแบบมีเฉพาะของใช้สอยหลายชนิด (ถวายได้ตลอดวัน)

นะโม ตัสสะ/ ภะคะวะโต/ อะระหะโต/ สัมมาสัมพุทธธัสสะ (ว่า 3 จบ) อิมานิ มะยัง ภันเต/ กัปปิยะภัณฑานิ/ ภิกขุสังฆัสสะ/ โอโณชะยามะ/สาธุ โน ภันเต/ ภิกขุสังโฆ/ อิมานิ/ กัปปิยะภัณฑานิ/ ปะฏิคคัณหาตุ/ อัมหากัง/ทีฆะรัตตัง/ หิตายะ/ สุขายะ  ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ/ ข้าพเจ้าทั้งหลาย/ ขอน้อมถวาย/ ซึ่งกัปปิยภัณฑ์เหล่านี้/ แด่พระภิกษุสงฆ์/ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ/ ซึ่งกัปปิยภัณฑ์เหล่านี้/ของข้าพเจ้าทั้งหลาย/ เพื่อประโยชน์/ เพื่อความสุข/ แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย/ตลอดกาลนาน เทอญ
     

คำถวายสังฆทานอุทิศ (ถวายเจาะจง)
นะโม ตัสสะ/ ภะคะวะโต/ อะระหะโต/ สัมมาสัมพุทธธัสสะ (ว่า 3 จบ)อิมานิ มะยัง ภันเต/ มะตะกะภัตตานิ/ สะปะริวารานิ/ ภิกขุสังฆัสสะ/โอโณชะยามะ/ สาธุ โน ภันเต/ ภิกขุสังโฆ/ อิมานิ/ มะตะกะภัตตานิ/ สะปะริวารานิ/ปะฏิคคัณหาตุ/ อัมหากัญเจวะ/ มาตาปิตุอาทีนัญจะ/ ญาตะกานัง/ กาละกะตานัง/ทีฆะรัตตัง/ หิตายะ/ สุขายะ ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์ผู้เจริญ/ ข้าพเจ้าทั้งหลาย/ ขอน้อมถวาย/ ซึ่งมะตะกะภัตตาหาร/ พร้อมทั้งของบริวารเหล่านี้/ แด่พระภิกษุสงฆ์/ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ/ซึ่งมะตะกะภัตตาหาร/ พร้อมทั้งของบริวารเหล่านี้/ ของข้าพเจ้าทั้งหลาย/เพื่อประโยชน์/ เพื่อความสุข/ แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายด้วย/ แก่ญาติทั้งหลาย/มีมารดาบิดา เป็นต้น/ ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย/ ตลอดกาลนานเทอญ.

การจัดเครื่องไทยธรรมถวายพระ
- เครื่องไทยธรรม คือ วัตถุสิ่งของต่าง ๆ ที่สมควรถวายพระสงฆ์ ได้แก่ ปัจจัย 4 และสิ่งของที่นับเนื่องในปัจจัย 4
- สิ่งของที่ประเคนพระได้ในเวลาช่วงเช้าถึงเที่ยง ได้แก่ อาหารคาวหวานทุกชนิด ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง และอาหารเครื่องกระป๋องทุกประเภท(หากนำสิ่งของเหล่านี้ไปถวายในเวลาหลังเที่ยงแล้วไม่ต้องประเคน เพียงแต่แจ้งให้พระรับทราบ แล้วมอบให้ศิษย์เก็บรักษาไว้จัดทำถวายในวันต่อไป)
- สิ่งของที่ประเคนพระได้ตลอดเวลา ได้แก่ ประเภทเครื่องดื่ม เครื่องยารักษาโรค และประเภทเภสัช เช่น น้ำตาล น้ำผึ้ง น้ำอ้อย หมากพลู ฯลฯ หรือสิ่งของไม่ใช่สำหรับขบฉัน
- สิ่งของที่ไม่สมควรประเคนพระ ได้แก่ เงิน และวัตถุสำหรับใช้แทนเงิน เช่น ธนบัตร (ในการถวาย ควรใช้ใบปวารณาแทนตัวเงิน ส่วนตัวเงินมอบไว้แก่ไวยาวัจกรของพระนั้น)

การประเคนของพระ ถ้าเป็นชาย ยกส่งให้ถึงมือพระ ถ้าเป็นหญิงวางลงบนผ้าที่พระทอดรับประเคน ถ้าพระสงฆ์นั่งกับพื้น พึงนั่งคุกเข่าประเคน ถ้าพระสงฆ์นั่งเก้าอี้ พึงยืนหรือนั่งคุกเข่าประเคน ภัตตาหารทุกชนิดที่ประเคนแล้ว ห้ามคฤหัสถ์จับต้องอีก ถ้าเผลอไปจับต้องเข้าต้องประเคนใหม่

ลักษณะการประเคนที่ถูกต้อง ประกอบด้วยองค์ 5 คือ

1. สิ่งของที่จะประเคนไม่ใหญ่โตหรือหนักเกินไป ขนาดคนปานกลางคนเดียวยกได้และต้องยกสิ่งนั้นพ้นจากพื้นที่สิ่งของนั้นตั้งอยู่ 

2. ผู้ประเคนอยู่ห่างจากพระ ประมาณ 1 ศอก เป็นอย่างมาก (ไม่เกิน 2 ศอก) 
3. ผู้ประเคนน้อมสิ่งของเข้าไปด้วยกิริยาอาการแสดงความเคารพอ่อนน้อม 
4. กิริยาอาการที่น้อมสิ่งของเข้าไป จะส่งด้วยมือก็ได้ ด้วยของเนื่องด้วยกาย เช่น ใช้ทัพพีตักถวาย ฯลฯ ก็ได้ 
5. พระผู้รับประเคนนั้น จะรับด้วยมือก็ได้ ด้วยของเนื่องด้วยกาย เช่นจะใช้ผ้าทอดรับ ใช้บาตรรับ หรือ ใช้ภาชนะรับ ฯลฯ ก็ได้
 

การกรวดน้ำ งานทำบุญทุกชนิด ต้องมีการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปด้วย 
- ใช้น้ำที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสีหรือสิ่งอื่นใดเจือปน
- ใช้ภาชนะ (เต้า) กรวดน้ำโดยเฉพาะ ถ้าไม่มี ก็ใช้แก้วน้ำหรือขันน้ำแทนโดยจัดเตรียมไว้ก่อนถึงเวลาใช้
- เมื่อพระสงฆ์เริ่มอนุโมทนาว่า ยถา... ก็เริ่มกรวดน้ำโดยจับภาชนะกรวดน้ำด้วยมือทั้งสอง รินน้ำให้ไหลลงเป็นสาย ไม่ให้ขาดตอนเป็นระยะ โดยไม่ต้องใช้นิ้วมือรองรับสายน้ำ
- เมื่อพระสงฆ์ขึ้นอนุโมทนาว่า สัพพีติโย... พึงเทน้ำให้หมดภาชนะกรวดน้ำแล้วประนมมือรับพรต่อไป
- พิธีกร เข้าไปนำภาชนะกรวดน้ำพร้อมทั้งน้ำที่กรวดแล้วออกมาทันทีเทลงพื้นดินที่สะอาด ในที่กลางแจ้ง หรือที่โคนต้นไม้ใหญ่ ภายนอกตัวอาคารบ้านเรือน ห้ามเทลงในกระโถน หรือในที่สกปรก เป็นอันขาด

คำกรวดน้ำ
อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ/ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย / อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ/ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโรอิทัง เม เทวะตานัง โหตุ/ สุขิตา โหนตุ เทวะตาโย อิทัง เม สัพเพสัง สัตตานัง โหตุ/ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา ขอส่วนบุญของข้าพเจ้านี้ จงสำเร็จแก่ญาติ มารดาบิดา เทวดา และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอให้ญาติ มารดาบิดา เทวดา และสรรพสัตว์ทั้งหลาย จงเป็นสุขเถิด

*****-----*****
ติดต่อ เรือลอยอังคาร กองการฝึก กองเรือยุทธการ โทร.033-147689 มือถือ 095-7233739

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ความประทับใจของผู้มาใช้บริการ เรือลอยอังคาร

พิธีทำบุญ เรือลอยอังคาร

ผ้ามหาบังสกุล เรือลอยอังคาร กองเรือ โทร.033-147689 มือถือ 095-7233739